ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด ตำนานลิเวอร์พูลทำอะไรเมื่อเลิกเล่น?

ชีวิตหลังแขวนสตั๊ด เมื่อเสียงนกหวีดสุดท้ายในสนามดังขึ้น ชีวิตของนักฟุตบอลก็ไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น หลายคนอาจเลือกเดินหน้าต่อในวงการลูกหนัง ไม่ว่าจะเป็นโค้ช นักวิเคราะห์ หรือผู้บริหารสโมสร แต่มีอดีตแข้งลิเวอร์พูลบางคนที่หันหลังให้ฟุตบอล และเลือกเส้นทางที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

จากนักเตะที่เคยไล่ล่าความสำเร็จในพรีเมียร์ลีกและเวทียุโรป บางคนกลับไปใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ บางคนเปลี่ยนบทบาทเป็นศิลปิน บางคนมุ่งสู่โลกแห่งการเมือง หรือแม้แต่การซิ่งรถแข่ง! เรื่องราวของพวกเขาไม่เพียงแต่น่าสนใจ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจว่าชีวิตหลังแขวนสตั๊ดนั้นสามารถมีสีสันและความหมายได้หลากหลายกว่าที่คาดคิด

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 5 อดีตแข้งลิเวอร์พูลที่เลือกเดินบนเส้นทางสุดเซอร์ไพรส์ และค้นพบว่า ชีวิตหลังฟุตบอลของพวกเขานั้นน่าตื่นเต้นไม่แพ้เกมในสนามเลยทีเดียว

เส้นทางที่ไม่ธรรมดา! 5 อดีตแข้งลิเวอร์พูลกับอาชีพใหม่หลังแขวนสตั๊ด

1. เวการ์ด เฮกเก้ม (Vegard Heggem) – จากสนามหญ้าสู่สายน้ำ นักตกปลาแซลม่อนแห่งนอร์เวย์

เมื่อพูดถึงอดีตนักเตะลิเวอร์พูล หลายคนอาจนึกถึงเส้นทางโค้ชหรือกูรูฟุตบอล แต่ เวการ์ด เฮกเก้ม อดีตกองหลังชาวนอร์เวย์ กลับเลือกเส้นทางที่ต่างออกไปแบบสุดขั้ว—จากแอนฟิลด์สู่แม่น้ำออร์กลา เพื่อเป็นนักตกปลาแซลม่อนเต็มตัว!

จากฟุตบอลสู่ธรรมชาติ

เฮกเก้มค้าแข้งกับลิเวอร์พูลระหว่างปี 1998-2003 แต่ต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควรเพราะอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้จมอยู่กับอดีต แต่กลับเลือกกลับบ้านเกิดและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแบบที่เขาหลงใหล

กระท่อมตกปลาและภารกิจอนุรักษ์

แทนที่จะอยู่ในสนามฟุตบอล เขาลงทุนสร้าง กระท่อมตกปลา ริมแม่น้ำออร์กลา สถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องปลาแซลม่อนแอตแลนติก นอกจากให้บริการนักตกปลาจากทั่วโลก เขายังเป็น ที่ปรึกษาด้านการอนุรักษ์ปลาแซลม่อน ทำงานร่วมกับองค์กรท้องถิ่นเพื่อรักษาสมดุลของระบบนิเวศ

อาชีพที่ใช่…หลังแขวนสตั๊ด

“ผมรักการตกปลา มันเป็นความสุขที่แท้จริงของผม” เฮกเก้มกล่าวถึงอาชีพใหม่ของเขา ชีวิตใหม่ของเขาอาจแตกต่างจากอดีตนักฟุตบอลทั่วไป แต่เขาได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ชีวิตหลังแขวนสตั๊ดสามารถเติมเต็มได้ หากเราเลือกทำสิ่งที่รักจริงๆ

2. ฌิบริล ซิสเซ่ (Djibril Cissé) – จากดาวยิงสู่ดีเจและเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า

หากพูดถึง ฌิบริล ซิสเซ่ แฟนลิเวอร์พูลคงจำได้ดีถึงกองหน้าสายสปีด ทรงผมสุดเฟี้ยว และลีลาการยิงประตูสุดดุดัน แต่หลังจากแขวนสตั๊ด ชีวิตของเขาไม่ได้จบแค่ในสนามฟุตบอล เพราะเขาหันไปจับไมค์เป็น ดีเจมืออาชีพ และลุยธุรกิจแฟชั่นของตัวเอง!

จากหงส์แดงสู่เวทีดนตรี

ซิสเซ่เคยเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์สูง แต่ปัญหาบาดเจ็บทำให้เขาต้องอำลาฟุตบอลเร็วเกินคาด อย่างไรก็ตาม ความรักในเสียงเพลงไม่เคยจางหาย หลังแขวนสตั๊ด เขาเลือกเดินบนเส้นทาง ดีเจและโปรดิวเซอร์เพลง สไตล์ EDM และฮิปฮอป โดยมีผลงานที่ถูกเปิดกว่าล้านครั้งบน Spotify!

เจ้าของแบรนด์แฟชั่นสุดแนว

นอกจากดนตรี ซิสเซ่ยังเป็นคนหลงใหลแฟชั่น และไม่ใช่แค่แต่งตัวเท่ๆ เท่านั้น เขาลงทุนสร้าง แบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง ที่สะท้อนสไตล์จัดจ้านแบบไม่ซ้ำใคร กลายเป็นนักธุรกิจเต็มตัวที่ก้าวออกจากโลกฟุตบอลอย่างมีสีสัน

ชีวิตที่เลือกเอง

“ผมอุทิศตัวเองให้กับดนตรี แฟชั่น และการใช้ชีวิตในแบบที่ผมรัก” ซิสเซ่กล่าวถึงเส้นทางใหม่ของเขา แม้จะเคยเป็นดาวยิงระดับท็อป แต่เขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ความหลงใหลสามารถพาเราไปสู่จุดหมายใหม่ได้เสมอ

จากสนามฟุตบอลสู่ฟลอร์เต้นรำ ฌิบริล ซิสเซ่ แสดงให้เห็นว่า ชีวิตหลังแขวนสตั๊ดนั้นเต็มไปด้วยจังหวะที่สนุกและเร้าใจได้เสมอ

3. วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ (Vladimír Šmicer) – เบนเข็มสู่เส้นทางการเมือง

วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ คือหนึ่งในฮีโร่ของลิเวอร์พูลชุดปาฏิหาริย์ที่อิสตันบูล ปี 2005 เขาคือมิดฟิลด์จอมเทคนิคที่เคยซัดประตูสุดสำคัญในรอบชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ใครจะคิดว่า หลังจากแขวนสตั๊ด เขาจะหันหลังให้สนามฟุตบอล แล้วก้าวเข้าสู่ เวทีการเมือง แทน!

จากนักฟุตบอลสู่ผู้สมัครรัฐสภายุโรป

หลังเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2009 ซมิเซอร์เลือกเดินเส้นทางที่แตกต่างไปจากอดีตเพื่อนร่วมทีมหลายคน โดยเขาตัดสินใจก้าวเข้าสู่วงการการเมืองในบ้านเกิด สาธารณรัฐเช็ก และลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภายุโรปในปี 2014 ในนามพรรค “Order of the Nation”

นโยบายเพื่อสังคม

ซมิเซอร์ไม่ได้มาเล่นๆ แต่เขามีวิสัยทัศน์ด้านสังคมที่ชัดเจน หนึ่งในนโยบายสำคัญที่เขาผลักดันคือ การลดอัตราโรคอ้วนในเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาที่เขามองว่าเชื่อมโยงกับการศึกษาด้านสุขภาพและโภชนาการในประเทศของเขา

แม้ล้มเหลว แต่ได้ลอง

แม้สุดท้าย ซมิเซอร์จะไม่ได้รับเลือกเข้าสู่รัฐสภายุโรป แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าชีวิตหลังฟุตบอลไม่จำเป็นต้องวนเวียนอยู่กับสนามเสมอไป เขากล้าที่จะออกจากคอมฟอร์ตโซน และลองทำในสิ่งที่เชื่อมั่น

ชีวิตหลังการเมือง

หลังจากพลาดเก้าอี้ในรัฐสภายุโรป ซมิเซอร์กลับมามีบทบาทในวงการฟุตบอลเช็กอีกครั้ง ทั้งในฐานะที่ปรึกษาและโค้ชระดับเยาวชน แม้จะไม่ได้เป็นนักการเมืองเต็มตัว แต่เขายังคงมีบทบาทในการส่งเสริมสุขภาพและการกีฬาให้กับเยาวชนในประเทศบ้านเกิด

จากนักเตะสู่ผู้สมัครสมาชิกสภายุโรป วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ แสดงให้เห็นว่า ชีวิตหลังแขวนสตั๊ดไม่ได้มีแค่ฟุตบอล หากมีความมุ่งมั่น ก็สามารถเลือกเส้นทางใหม่ที่มีความหมายได้เสมอ

4. เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค (Jerzy Henryk Dudek) – จากผู้รักษาประตูสู่สนามแข่งรถ

หากพูดถึง เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค ภาพจำของแฟนบอลลิเวอร์พูลคงหนีไม่พ้นค่ำคืนสุดมหัศจรรย์ที่อิสตันบูล ปี 2005 เมื่อเขาโชว์ซูเปอร์เซฟช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แบบสุดดราม่า แต่หลังจากแขวนถุงมือ ดูเด็คไม่ได้เลือกเส้นทางโค้ช หรือกูรูฟุตบอลแบบที่หลายคนคาดไว้ เขาหันไปซิ่งบนสนามแข่งรถแทน!

จากจอมเซฟสู่พวงมาลัยนักแข่ง

หลังอำลาฟุตบอลอาชีพในปี 2011 อดีตนายทวารทีมชาติโปแลนด์ได้หันไปทุ่มเทให้กับอีกหนึ่งความฝัน นั่นคือการเป็น นักแข่งรถ โดยเฉพาะการแข่งขันประเภท endurance racing ที่ต้องใช้ทั้งความอึด ความแม่นยำ และการตัดสินใจที่เฉียบขาด—ไม่ต่างจากบทบาทนายทวารในสนามฟุตบอลเลยทีเดียว

แรงบันดาลใจจากวัยเด็ก

ดูเด็คเคยเล่าว่าเขาหลงใหลความเร็วมาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยเส้นทางชีวิตที่พาเขาสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ทำให้เขาต้องพักความฝันนี้ไว้ก่อน จนกระทั่งหลังเลิกเล่นฟุตบอล เขาจึงได้โอกาสกลับมาสู่โลกมอเตอร์สปอร์ตอีกครั้ง

ชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย

แม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการแข่งรถ แต่ดูเด็คก็จริงจังกับเส้นทางใหม่นี้มาก เขาผ่านการฝึกฝนและลงแข่งขันในรายการสำคัญหลายรายการ รวมถึง Porsche Carrera Cup ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรีส์แข่งรถที่มีชื่อเสียง

จากมือกาวสู่ยอดนักซิ่ง

“คุณต้องมีแพสชันในชีวิต นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณก้าวต่อไป” ดูเด็คกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเขา แม้จากภายนอกจะดูเหมือนเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่สำหรับเขาแล้ว ทั้งฟุตบอลและมอเตอร์สปอร์ตต่างก็ต้องอาศัยวินัย การควบคุมสติ และการอ่านเกมอย่างเฉียบขาด

5. แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ (Daniel Munthe Agger) – นักสักมืออาชีพและโค้ชฟุตบอล

ถ้าพูดถึง แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ แฟนบอลลิเวอร์พูลคงจำได้ว่าเขาคือกองหลังสายบู๊ผู้เป็นหัวใจของแนวรับ แต่หลังจากแขวนสตั๊ด เส้นทางของเขากลับไม่ได้อยู่แค่ในสนามฟุตบอล แอ็กเกอร์หันไปจับเครื่องสักแบบเต็มตัว พร้อมกับสานต่ออาชีพโค้ชไปพร้อมกัน

จากกองหลังสุดแกร่งสู่โลกแห่งรอยสัก

แอ็กเกอร์ไม่ใช่นักฟุตบอลธรรมดา เพราะตลอดอาชีพค้าแข้งของเขา รอยสักเป็นส่วนหนึ่งของตัวตน เขาหลงใหลศิลปะบนเรือนร่างมาตั้งแต่ยังเล่นฟุตบอล และเมื่อเลิกเล่นในปี 2016 เขาก็เดินหน้าสู่วงการสักอย่างจริงจัง โดยร่วมก่อตั้ง Tattoodo หนึ่งในแพลตฟอร์มเกี่ยวกับรอยสักที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จากเครื่องสักสู่สนามซ้อม

แม้จะอุทิศตัวให้กับวงการสัก แต่ความรักในฟุตบอลของแอ็กเกอร์ไม่เคยจางหาย ในปี 2021 เขาหวนคืนสู่เกมลูกหนังในฐานะ หัวหน้าโค้ชของสโมสร HB Køge ทีมระดับดิวิชั่น 2 ของเดนมาร์ก ด้วยแนวทางการคุมทีมที่เน้นวินัยและความมุ่งมั่นแบบเดียวกับที่เขาเคยแสดงให้เห็นในสนาม

นักเตะสายอาร์ตที่ไม่ทิ้งแพสชัน

แอ็กเกอร์คือคนที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ชีวิตหลังแขวนสตั๊ดไม่ได้มีแค่ฟุตบอล เขาสามารถรักษาสมดุลระหว่างการเป็นศิลปินรอยสักและโค้ชฟุตบอลได้อย่างลงตัว ซึ่งทำให้เขาเป็นหนึ่งในอดีตนักเตะที่มีเส้นทางหลังเลิกเล่นที่น่าสนใจที่สุด

จากนักเตะที่มีรอยสักมากที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนัง สู่ศิลปินรอยสักตัวจริงและโค้ชฟุตบอล แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ แสดงให้เห็นว่าความหลงใหลสามารถพาชีวิตไปได้ไกลกว่าที่เราคิด

สรุปได้ว่า เรื่องราวของ เวการ์ด เฮกเก้ม, ฌิบริล ซิสเซ่, วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์, เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค และ แดเนี่ยล แอ็กเกอร์ แสดงให้เห็นว่า ชีวิตของนักฟุตบอลไม่ได้หยุดอยู่แค่ในสนาม พวกเขาเลือกเส้นทางที่แตกต่างจากสิ่งที่แฟนบอลคาดหวัง และกล้าก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง

บางคนเลือกกลับสู่ธรรมชาติและใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย บางคนเดินตามความฝันในโลกของดนตรีและศิลปะ หรือแม้กระทั่งท้าทายตัวเองในแวดวงการเมืองและมอเตอร์สปอร์ต สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ ความหลงใหลและความกล้าที่จะเริ่มต้นใหม่

ชีวิตหลังแขวนสตั๊ดอาจเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับนักฟุตบอลหลายคน แต่เรื่องราวของอดีตแข้งลิเวอร์พูลเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า เมื่อมีแพสชันและความมุ่งมั่น ชีวิตหลังฟุตบอลก็สามารถน่าตื่นเต้นและเติมเต็มได้ไม่แพ้ช่วงเวลาที่พวกเขาโลดแล่นอยู่บนสนาม

คำถามที่พบบ่อย

1. อดีตนักเตะลิเวอร์พูลมักเลือกเส้นทางโค้ชหรือทำงานในวงการฟุตบอลหลังแขวนสตั๊ดหรือไม่?

ไม่เสมอไป แม้จะมีอดีตนักเตะหลายคนที่ยังคงทำงานในวงการฟุตบอล เช่น เป็นโค้ชหรือกูรูฟุตบอล แต่ก็มีอีกหลายคนที่เลือกเดินเส้นทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง เช่น เวการ์ด เฮกเก้ม ที่กลายเป็นนักตกปลาแซลม่อน, ฌิบริล ซิสเซ่ ที่เป็นดีเจและเจ้าของแบรนด์แฟชั่น, เจอร์ซี่ย์ ดูเด็ค ที่หันไปเป็นนักแข่งรถ หรือ วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ ที่ลองเส้นทางการเมือง

2. ทำไม เวการ์ด เฮกเก้ม ถึงเลือกเป็นนักตกปลาแทนที่จะทำงานในวงการฟุตบอล?

เฮกเก้มมีความหลงใหลในการตกปลาแซลม่อนมาตั้งแต่เด็ก และเมื่ออาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องเลิกเล่นฟุตบอลก่อนเวลาอันควร เขาตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตในบ้านเกิดที่นอร์เวย์ สร้างกระท่อมตกปลาและทำงานด้านการอนุรักษ์ปลาแซลม่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักอย่างแท้จริง

3. ฌิบริล ซิสเซ่ ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลอยู่หรือไม่?

แม้ซิสเซ่จะประสบความสำเร็จในอาชีพดีเจและธุรกิจแฟชั่น แต่เขายังคงมีความรักในฟุตบอล และเคยกลับมาเล่นในลีกระดับล่างช่วงสั้นๆ หลังจากแขวนสตั๊ด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเขามุ่งเน้นไปที่ดนตรีและแฟชั่นมากกว่า

4. วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ ประสบความสำเร็จในเส้นทางการเมืองหรือไม่?

ซมิเซอร์ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภายุโรปในปี 2014 ในนามพรรค Order of the Nation แต่ไม่ได้รับเลือก แม้ว่าสุดท้ายเขาจะไม่ได้เป็นนักการเมืองเต็มตัว แต่ก็ยังมีบทบาทในการสนับสนุนด้านสุขภาพและกีฬาให้กับเยาวชนในสาธารณรัฐเช็ก